เราจะบริหารพอร์ทยังไงให้ไม่ขาดทุนและยืนอยู่ในตลาดหุ้นได้อย่างยาวนานเพื่อเรียนรู้

การเทรดหุ้นรายวันโดยใช้โปรแกรมเทรดอนุพันธ์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตปัจจุบันมีหลากหลายแอปหลากหลายโปรแกรมและเครื่องมือที่เพิ่มขึ้นมากมาย เราจะเทรดอย่างไรให้ไม่เกิดความเสี่ยงและยังได้บริหารพอร์ทการลงทุนไปด้วยความเพลิดเพลิน เงินก็ไม่สูญเสียไปไหน การบริหารพอร์ทการลงทุนจึงถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

เราจะบริหารพอร์ทยังไงให้ไม่ขาดทุนและยืนอยู่ในตลาดได้อย่างยาวนานจนมีความรู้และประสบการณ์พัฒนาตนเองสู่ความเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพที่สมบูรณ์แบบ แต่ถ้านักลงทุนไม่รู้จักบริหารพอร์ทการลงทุนให้เรียบร้อยสมบูรณ์แบบ นักลงทุนจะประสบปัญหามากมายตามมา พอร์ทโดนตัด เงินหมด ขาดทุนยับ เจ๊ง ตลาดโหดร้าย การพนันชัดๆ ไม่ไหวแล้วเว้ย โกง แกล้งกันปะครัช โฮ๋กราฟ หมดกันม่าม่าปลายเดือน สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นนักลงทุน ชอบมั๊ยล่ะ แต่มันก็สนุกดีนะ ถือเป็นประสบการณ์ นักลงทุนคนไหนเทรดแล้วไม่เคยเป็นอย่างนั้นนับถือครับ สาธุ ใครอยากเจอประสบการณ์พอร์ทโดนตัดเหลือแต่ค่าม่าม่า ผมละยุเลย ซื้อหนักๆเลยครับ ถ้าโชคดีก็รวยไปเลย เล่นเป็นการพนันไปเลย โชคดีครั้งแรก แล้วครั้งต่อๆไปล่ะ ซื้อหนักขนาดนั้น คงจะยืนอยู่ในตลาดได้ล่ะ

ซื้อขายกันเบาๆสิครับ ค่อยเป็นค่อยไป อย่าโลภ อย่าไปอยากได้ คิดซะว่าฝากเงินไว้ ฝากยังไงให้เงินงอกไวๆ เมื่อคุณเห็นทิศทางของราคาตัวใดตัวหนึ่ง เช่น เห็นในทีวีชอบพูดตัวนั้นว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ถามว่าเชื่อได้ไหม เชื่อได้นะครับ นักลงทุนกลับมาดูทุนในกระเป๋าพร้อมแค่ไหน เดือนนี้ถ้าเอาเงินไปฝากแบบไม่ถอนจะเหลือเงินทานข้าวไหมจะมีเงินไว้ใช้จ่ายไหม ถ้าไม่มีก็เล่นไม่ได้บอกเลย ไม่ต้องมาอ้อนวอน คุณอยากได้ หุ่นยนต์กันพลา ตัวล่ะ3,650บาท แต่คุณมีเงินไม่ถึง คุณก็ไม่มีสิทธิ์ได้หุ่นยนต์กันพลาตัวนั้นมาครอบครองเป็นเจ้าของ ถ้าเดือนนั้นคุณมีเงินเหลือ4,000บาท โอเคซื้อกันพลาได้แต่ไม่เหลือเงินทานข้าวคุณจะยังฝืนซื้อมั๊ยล่ะ

เราจะบริหารพอร์ทการลงทุนอย่างไรดีล่ะ?

การเติบโตของเงินในบัญชีการลงทุนควรเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่โลภมาก ไม่หวังจะให้เติบโตไวแบบก้าวกระโดด การบริหารง่ายๆในเบื้องต้น เช่น นักลงทุน มีเงินทุน100% sell ทองคำ ไป 1% ของเงินทุน ทองคำจะขึ้นแค่ไหนคุณก็ไม่ต้องกังวล ขาดทุนนิดหน่อยเพื่อซื้อประสบการณ์ พูดในทางที่แย่คือขาดทุน คุณจะขาดทุนซักกี่%จากเงินที่เข้าsellแล้วทองขึ้น ก็ในเมื่อนักลงทุนsellไปแค่ 1% ของเงินทุน

หลายๆท่านคงเคยเห็นเคยอ่านเจอตามเว็บต่างๆนักลงทุนขาดทุนไม่พอใจพูดประชดหรืออะไรต่างๆนาๆ นักลงทุนลองไปถามเขาว่า เข้าซื้อไปกี่%เหรอครับ นักลงทุนจะได้คำตอบที่ไม่น่าแปลกใจ รับรองทุกรายครับ